การตลาดดิจิทัลมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลาด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป เมื่อเราก้าวเข้าสู่ปี 2024 ธุรกิจต่างๆ จะต้องก้าวนำหน้าและปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์ใหม่ๆ
เทรนด์การตลาดดิจิทัล 5 เทรนด์จะประกอบด้วยอะไรบ้าง ไปดูกัน
1. การให้ความสำคัญกับ Customer Journey มากขึ้น
ในปัจจุบันที่ผู้บริโภคมีทางเลือกมากมาย แบรนด์จึงต้องให้ความสำคัญกับ Customer Journey หรือเส้นทางการซื้อของลูกค้าให้มากขึ้น เพื่อเข้าใจความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้าในแต่ละขั้นตอน ตั้งแต่การรับรู้ (Awareness) ความสนใจ (Interest) การพิจารณา (Consideration) การตัดสินใจซื้อ (Decision) และการซื้อซ้ำ (Repurchase)
แบรนด์สามารถใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ Customer Journey ของลูกค้า จากนั้นนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์และปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าในแต่ละขั้นตอน เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีและตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการของแบรนด์
2. Hyper-Personalization ผ่าน Big Data และการวิเคราะห์ข้อมูล
ผู้บริโภคปัจจุบันคาดหวังประสบการณ์ที่ออกแบบโดยเฉพาะ ด้วยปัจจุบันข้อมูลจํานวน มหาศาลจากโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ได้มีการเก็บข้อมูลลูกค้าที่เข้ามาใช้สินค้าและบริการโดยใช้การวิเคราะห์ที่ซับซ้อน ส่งผลให้เกิดกลยุทธ์การตลาดแบบเจาะจงเฉพาะบุคคล Personalization หรือการปรับเนื้อหาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เป็นอีกเทรนด์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ แบรนด์สามารถใช้ข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้าเพื่อปรับแต่งเนื้อหาและประสบการณ์ของลูกค้าให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ซึ่งจะช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าในระยะยาว
สามารถใช้ Personalization หรือการออกแบบโดยเฉพาะสําหรับบุคคลกับสื่อต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย เช่น เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย อีเมล์ตัวอย่างเช่น แบรนด์สามารถแนะนำผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ตรงกับความสนใจของลูกค้า หรือนำเสนอโปรโมชั่นที่เหมาะสมกับพฤติกรรมของลูกค้าที่เฉพาะบุคคล
3. AI เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการตลาดอย่างแท้จริง
เพราะความต้องการของผู้บริโภคปัจจุบันแสวงหาความพึงพอใจและวิธีแก้ปัญหาในทันที เป็นที่มาของแบรนด์ต่างๆ ดึงดูดผู้บริโภคแบบเรียลไทม์ จากการตอบคําถามและชี้แนะการตัดสินใจซื้อผ่านแชทบอทเป็นการสนทนาที่ขับเคลื่อยด้วย AI หรือปัญญาประดิษฐ์ เข้ามามีบทบาทสำคัญในการตลาดดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ และแบรนด์ยังสามารถใช้ AI เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานต่างๆ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การสร้างคอนเทนต์ การให้บริการลูกค้า ตัวอย่างเช่น ใช้ AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้าเพื่อหาความต้องการและปัญหาของลูกค้า จากนั้นนำข้อมูลมาพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่หรือปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า ตัวอย่างของ AI ที่กําลังเป็นที่นิยม
ChatGPT เป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่สร้างโดย OpenAI เป็นโมเดลการเรียนรู้ของเครื่องที่สามารถจำลองการสนทนาของมนุษย์ได้
LaMDA เป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่สร้างโดย Google AI เป็นโมเดลการเรียนรู้ของเครื่องที่สามารถสื่อสารและสร้างข้อความที่เหมือนมนุษย์
Bard เป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่สร้างโดย Google AI เป็นโมเดลการเรียนรู้ของเครื่องที่สามารถให้ข้อมูลและตอบคำถามได้ คล้ายกับ ChatGPT
บางครั้งชื่อ AI ก็ถูกตั้งตามชื่อตัวละครในภาพยนตร์หรือหนังสือ เช่น LaMDA ซึ่งเป็นชื่อย่อของ “Language Model for Dialogue Applications” และ Bard ซึ่งเป็นชื่อของกวีและนักดนตรีในวัฒนธรรมตะวันตก เพื่อให้คนจดจําได้ง่ายขึ้น
5 เทรนด์ Digital Marketing การตลาดออนไลน์ ปี 2024 อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://techwealth99.com/