ผู้เขียน หัวข้อ: วิธีผ่อนบ้านให้หมดเร็วด้วยการรีไฟแนนซ์บ้าน 2567 พร้อมเคล็ดลับและเอกสารรีไฟแนนซ์บ  (อ่าน 52 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 575
    • ดูรายละเอียด
วิธีผ่อนบ้านให้หมดเร็วด้วยการรีไฟแนนซ์บ้าน 2567 พร้อมเคล็ดลับและเอกสารรีไฟแนนซ์บ้านที่ต้องใช้

รู้สึกไหมว่าเวลาที่เรามีภาระต้องผ่อนบ้าน ผ่อนคอนโดเดือนละ 3,000 จะรู้สึกใช้เวลานานมาก นั่นเป็นเพราะเมื่อหมดโปรโมชันสินเชื่อบ้านในช่วงแรกแล้ว ดอกเบี้ยจะพุ่งสูงขึ้น ทำให้เงินที่ผ่อนต่อเดือนหมดไปกับค่าดอกเบี้ย และตัดเงินต้นน้อยลง หลายคนจึงพยายามหาวิธีโปะบ้านเพื่อปิดหนี้ หรือมองหาโปรโมชันดีๆ สำหรับการรีไฟแนนซ์หนี้บ้านก้อนเดิม

หากต้องการโปะบ้านให้หมดไว แต่ไม่มีเงินก้อนใหญ่ แถมรายจ่ายก็มัดแน่นจนแบ่งมาโปะบ้านเพิ่มไม่ไหว การรีไฟแนนซ์บ้านคือทางออกที่ดีที่สุดสำหรับคนที่มองหาวิธีผ่อนบ้านให้หมดเร็ว ถ้าอยากรู้ว่า รีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร บทความนี้มีคำตอบ


การรีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร

การรีไฟแนนซ์บ้าน คือ การยื่นกู้สินเชื่อบ้านกับธนาคารแห่งใหม่ เพื่อลดภาระเงินกู้ที่มีอยู่กับธนาคารเดิมแล้ว* หรือพูดง่ายๆ ก็คือ เป็นการย้ายไปกู้เงิน และผ่อนกับธนาคารใหม่ที่เสนอดอกเบี้ยถูกกว่านั่นเอง

การรีไฟแนนซ์เป็นทางเลือกในการเซฟดอกเบี้ยหลังหมดโปรโมชันผ่อนบ้านกับธนาคารก่อนหน้า โดยผู้ขอสินเชื่อสามารถเปรียบเทียบเงื่อนไขจากธนาคารต่างๆ ได้เองเพื่อให้ได้โปรโมชันใหม่ที่คุ้มค่ากว่าเดิม

สาเหตุที่แนะนำให้รีไฟแนนซ์บ้านก็เพราะตามปกติแล้วธนาคารมักกำหนดเงื่อนไขผ่อนชำระในอัตราดอกเบี้ยต่ำหรือคงที่เฉพาะในช่วง 3 ปีแรก เมื่อหมดโปรโมชันอัตราดอกเบี้ยจะปรับสูงขึ้น การรีไฟแนนซ์บ้านจึงช่วยให้เรากลับไปผ่อนบ้านในอัตราดอกเบี้ยต่ำได้เช่นเดียวกับการผ่อนบ้านในช่วงแรกนั่นเอง *ธนาคารส่วนใหญ่จะกำหนดระยะสัญญาไว้ 3 ปี กรณีรีไฟแนนซ์ก่อน 3 ปีอาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่ม



ข้อดีของการรีไฟแนนซ์บ้าน

หากจะอธิบายข้อดีของการรีไฟแนนซ์บ้านให้ชัดๆ คงต้องยกตัวอย่างการจ่ายดอกเบี้ยและเงินต้นในการผ่อนบ้านแต่ละเดือนดังนี้
สมมติว่าผู้ขอสินเชื่อต้องผ่อนบ้านเดือนละ 25,000 บาท เมื่อหมดโปรโมชันดอกเบี้ยในช่วงแรกแล้ว เงินค่างวดที่จ่ายมาคิดเป็นดอกเบี้ย 15,000 บาท เป็นเงินต้น 10,000 บาท จะเห็นว่าเงินที่ผ่อนบ้านส่วนมากคือค่าดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้น แต่หากทำการรีไฟแนนซ์บ้าน สัญญาใหม่อาจหักดอกเบี้ยเพียง 8,000 บาท และหักเงินต้น 17,000 บาท แบบนี้ทำให้จ่ายดอกเบี้ยโดยรวมลดลง และค่าผ่อนบ้านแต่ละเดือนถูกนำไปหักในเงินต้นมากขึ้น ซึ่งทำให้การผ่อนบ้านใช้ระยะเวลาที่สั้นลง


รีไฟแนนซ์บ้าน ควรทำเมื่อไร

การรีไฟแนนซ์บ้านสามารถทำได้เมื่อพ้นจากเงื่อนไขตามสัญญาสินเชื่อบ้านกับธนาคารเดิม ส่วนมากจะอยู่ที่ราว 3 ปี กรณีที่ต้องการรีไฟแนนซ์ก่อนครบกำหนดสัญญา 3 ปี จะมีค่าธรรมเนียมตามที่ธนาคารระบุไว้ในสัญญา ผู้กู้จึงต้องศึกษาเงื่อนไขของสัญญาการกู้อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ

อย่างไรก็ดี ผู้กู้สามารถเตรียมความพร้อมสำหรับการรีไฟแนนซ์บ้านก่อนครบกำหนดสัญญา 3 ปีได้ เพราะขั้นตอนในการพิจารณา ประเมินราคา และขออนุมัติสินเชื่อใหม่ต้องใช้เวลาพอสมควร หากผู้กู้ศึกษาข้อมูลรอไว้แล้ว จะเริ่มดำเนินการระหว่างรอสิ้นสุดสัญญาประมาณ 1-2 เดือนก็ได้


ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์บ้าน

หลังจากศึกษารายละเอียดสัญญาการกู้ระหว่างธนาคารเดิม และเงื่อนไขการรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารใหม่อย่างถี่ถ้วนแล้ว จะมีขั้นตอนการติดต่อธนาคาร ดังนี้

    สรุปยอดหนี้ที่เหลืออยู่กับธนาคารเดิม ติดต่อธนาคารใหม่ที่ต้องการรีไฟแนนซ์บ้าน เพื่อยื่นคำขอสินเชื่อ ประเมินบ้านและรอฟังผลการอนุมัติ หากผ่านแล้วให้แจ้งธนาคารเดิมเพื่อขอไถ่ถอนบ้าน
    ติดต่อธนาคารเพื่อทำสัญญาใหม่ให้เรียบร้อย แล้วประสานงานนัดเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ธนาคารมาพบกันเพื่อชำระหนี้ และทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดินของเขตที่ตั้งของทรัพย์สินจนแล้วเสร็จ

ข้อควรรู้: ในการรีไฟแนนซ์บ้านจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าจัดการสินเชื่อสัญญาใหม่ ประมาณ 0-1% ของวงเงินกู้ใหม่ ค่าธรรมเนียมการจดจำนอง 1% ของวงเงินจำนอง สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท ค่าอากรแสตมป์ 0.05% ของวงเงินกู้ใหม่ ค่าประเมินมูลค่าหลักทรัพย์ ประมาณ 3,000-4,000 บาท ขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคารเรียกเก็บ ค่าประกันอัคคีภัยหรือประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ (MRTA) เป็นต้น


เอกสารที่ใช้สำหรับรีไฟแนนซ์บ้าน

สำหรับเอกสารรีไฟแนนซ์บ้าน มีดังนี้

    เอกสารส่วนบุคคลของผู้กู้ และผู้กู้ร่วม (ถ้ามี) ได้แก่
    1.1 บัตรประจำตัวประชาชน หรือ บัตรข้าราชการของผู้กู้ ผู้กู้ร่วม และคู่สมรส
    1.2 ทะเบียนบ้านของผู้กู้ ผู้กู้ร่วม และคู่สมรส (ถ้ามี)
    1.3 สำเนาทะเบียนบ้านคู่สมรส ของผู้กู้และผู้กู้ร่วม (ถ้ามี)
    1.4 ใบเปลี่ยนชื่อ (ถ้ามี)
    เอกสารทางการเงิน
    2.1 สลิปเงินเดือน และหนังสือรับรองเงินเดือน ของผู้กู้ ผู้กู้ร่วม
    2.2 สำเนา Statement ย้อนหลัง และหลักฐานแสดงรายได้อื่นที่เชื่อถือได้ของผู้กู้ ผู้กู้ร่วม
    2.3 สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน / ทะเบียนการค้า (กรณีประกอบธุรกิจ)
    2.4 เอกสารแสดงข้อมูลการเสียภาษี
    เอกสารหลักประกันการรีไฟแนนซ์บ้าน
    3.1 สำเนาโฉนดที่ดิน หรือเอกสารสิทธิ์ห้องชุด (กรณีซื้อห้องชุด) ที่ใช้เป็นหลักประกัน
    เอกสารจากธนาคารเดิม
    4.1 สำเนาหนังสือสัญญากู้ สำเนาหนังสือสัญญาจำนองหลักทรัพย์
    4.2 สำเนาใบเสร็จการชำระเงินเดือนล่าสุด หรือ Bank Statement การชำระบัญชีเงินกู้จากสถาบันการเงิน


วิธีผ่อนบ้านให้หมดเร็ว

นอกจากการรีไฟแนนซ์ ยังมีวิธีผ่อนบ้านให้หมดเร็วที่อยากแนะนำ ดังนี้

การรีไฟแนนซ์บ้าน วิธีผ่อนบ้านให้หมดเร็ว

1. ชำระค่างวดให้เกินทุกเดือน

การพยายามจ่ายค่างวดให้มากขึ้นอีกนิด จะทำให้ผ่อนบ้านหมดไวขึ้นได้จริง ยกตัวอย่างซื้อบ้านในราคา 3 ล้านบาท วางเงินดาวน์ 10% เหลือยอดเงินกู้ 2,700,000 บาท หากคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.99% ระยะเวลาผ่อน 30 ปี จะมียอดผ่อนต่อเดือนที่ 16,171 บาท ถ้าลองจ่ายค่างวดให้มากขึ้นเป็น 20,000 บาทต่อเดือน ระยะเวลาผ่อนจะลดลงเหลือเพียง 226 งวด เท่ากับ 18 ปี 10 เดือน


2. เลือกโปะบ้านช่วงดอกเบี้ยต่ำ

ในช่วงแรกของการผ่อนบ้าน อัตราดอกเบี้ยจะค่อนข้างต่ำ เป็นจังหวะที่ควรโปะบ้านให้ได้มากที่สุด เพื่อช่วยลดเงินต้นและดอกเบี้ย แนะนำให้โปะบ้านโดยจ่ายค่างวดสองรอบ รอบแรกจ่ายตามที่ธนาคารกำหนด เงินนี้จะนำไปหักดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในงวดนั้น และให้จ่ายอีกครั้งหลังวันที่ตัดยอด เพื่อให้เงินที่โปะไปลดเงินต้นทั้งหมดแทน เมื่อเงินต้นลดลง อัตราดอกเบี้ยในเดือนถัดไปก็จะปรับลดตามไปด้วย


3. งดก่อหนี้เพิ่ม

การไม่ก่อหนี้ย่อมหมายความว่าเรามีเงินสำหรับโปะบ้านเพิ่มขึ้น ยิ่งถ้าเราสามารถหารายได้เสริมเพื่อนำเงินมาโปะบ้านได้อีก หนี้กู้บ้านก็จะปิดได้ไวขึ้น การปิดหนี้ได้ไวถือเป็นความฝันสูงสุดของคนมีบ้าน เพราะนอกจากช่วยประหยัดดอกเบี้ยแล้ว ยังหมดห่วงจากภาระหนี้ก้อนใหญ่ ใช้ชีวิตได้เต็มที่อีกด้วย

สำหรับใครที่กำลังมองหาสินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์บ้าน ธนาคารกรุงไทยก็มีข้อเสนอที่น่าสนใจเช่นกัน กับสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์* ที่ดอกเบี้ยพิเศษสุดๆ ผ่อนสบายๆ นานสูงสุด 40 ปี ฟรีค่าธรรมเนียมยื่นกู้ พร้อมทางเลือกธนาคารออกค่าจดจำนองให้ 1%*
*เงื่อนไขและเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด


กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

* อัตราดอกเบี้ยอยู่ระหว่าง 1.67% ต่อปี ถึง MLR -0.75% ต่อปี | อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (EIR) อยู่ระหว่าง 5.12% - 5.47% ต่อปี โดยคำนวณจากวงเงินกู้ 1 ล้านบาท อายุสัญญา 20 ปี ผ่อนชำระ 7,700 บาท/เดือน | MLR = 7.05% ต่อปี (ณ วันที่ 20 พ.ย. 66) | อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ | เงื่อนไขและเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด

 

ลงประกาศฟรี ติด google ลงโฆษณา ขายของ ฟรี โพสต์ฟรี ลงประกาศฟรี ขายฟรี ขายบ้าน ขายที่ดิน ขายคอนโด ประกาศฟรี ขายฟรี ขายรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ สถานที่ท่องเที่ยว โปรโมทเว็บ google ฟรี